พื้นฐาน DRAWING

1สิ่งที่ต้องเตรียม

 1.1ดินสอ  เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดเส้นมีหลายเกรดความเข้มโดยมีค่าอ่อนสุดที่ "H"

                  และค่าเข้มสุดที่   "EE"

                 -ดินสอที่ใช้นอยมในการ DRAWING มีดังนี้

                   2B,4B เหมาะสำหรับการร่างภาพเขียนลายเส้น หรือ ต้องการสเก็ตแบบคร่าวๆ

                   6B,EE นิยมในการ DRAWING ในแบบจริงๆจังๆ

1.2ยางลบ  เราควรซื้อมาใช้ในงาน 2 ก้อน 

                  ก้อนที่ 1         จะใช้ในการลบแบบทั่วไป

                  ส่วนก้อนที่ 2  เอาไว้ใช้ตัดเพื่อลบส่วนที่ละเอียดๆ

1.3มีดคัตเตอร์  ใช้เพื่อการเหลาดินสอ

1.4กระดาษ  หากใช้ในงานสเก็ตควรใช้กระดาษที่มีความหนาระดับ 80 แกรม

1.5 ตัวหนีบกระดาษ ควรใช้ตามความเหมาะสม ไม่เล็กไป-ไม่ใหญ่ไป

1.6 กระดาน  ขนาดของกระดานก็เท่ากับขนาดกระดาษ

2.ลายเส้น

    คือ  ลวดลายที่เขียนลงไปในภาพ  เพื่อให้เกิดอารมณ์ และความรู้สึกต่างๆ  ดังนี้

2.1เส้นเฉียง  หรือเส้น 45 องศา จะเป็นการเขียนลายเส้นแทยงไปในทิศทางเดียวกัน จะทแยงซ้าย ก็แล้ว                      แต่ว่าคนถนัดมือข้างใหน น้ำหนักของเส้นก็จะมีความนุ่มนวลมีระเบียบ เหมาะกับการเขียน                        น้ำหนักผ้า กระจก และอื่นๆ
2.2 เส้นขด   เป็นลายเส้นที่มีความสนุกสนาน หมุนานขตไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการยกมือออกจากกระดาษ
                    เส้นนี้เหมาะกับการฝึกบริหารข้อมือให้เกิดความเคลื่อนใหวตลอดเวลา

                                                    

2.3 เส้นตาข่าย เส้นนี้มีลักษณะทับซ้อนแบบเส้นตาข่ายให้ความรู้สึกขัดแย้ง แข็งกระด้าง เหมาะให้เกิด                         ลวดลายหรือแบบสร้างสรรค์ เช่นลวดลายผ้า

2.4 เส้นโค้ง เป็นการนำเส้นโค้งในทิศทางต่างๆ มาสานไปมาลักษณะคล้ายเส้นใคว้ เส้นโค้งจะมีความ                         กลมมน เหมาะสำหรับวัตถุที่มีความกลมมน

2.5 เส้นดี่ง   จะเป็นการใช้เส้นแนวดิ่ง หรือแนวนอน การเขียนลายก็จะเขียนไปตามทิศทางรูปทรง

2.6 เส้นระบาย จะเป็นเส้นที่มีแนวเดียวกับเส้นแนวเฉียงแต่มีความหยาบกว่า ใช้วิธีการจับดินสอแบบคว่ำ                     มือ เพื่อระบายได้กว้างและฉับไว

2.7 เส้นจุด   เป็นการใช้ดินสอ จุด หรือจิ้มลงไปในชิ้นงานเพื่อให้เกิดลวดลายหรือลักษณะของผิวที่                             ต้องการให้มีความหยาบกระด้าง

                                               

แสง-เงา

                    เมื่อเราวาดรูปเป็นเราต้องรู้จักแสงและเงาเพราะแสงและเงาทำให้เรามีตื้นมีนูนซึ่งมันจะทำให้ภาพของเราดูมีมิติและดูดีขึ้นอีกด้วย

น้ำหนักแสงและเงาโดยส่วนมากที่ใช้สำหรับการสอบคือ  เงาอยู่ด้านซ้ายของรูปทรงและอยู่ด้านขวา หรือเงาอยู่ด้านขวาของรูปทรงและสงอยู่ด้านซ้ายของรูปทรง  

รูปทรง

                  โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ฝึกทักษะทางศิลปะมาใหม่ๆย่อมควรที่จะฝึกการวาดรูปทรงเพราะมันเป็นทักษะพื้นฐานทางศิลปะที่จะสามารถนำมันไปต่อยอดต่อได้

   1.ทรง สี่เหลี่ยม

  2 ทรง กรวย

  3 ทรง กระบอก

  4 ทรง กลม

การเรียนศิลปะ (เรียนสอนพิเศษ)

   ครั้งที่ 1

      เรียนครั้งแรกๆจะเป็นการจะให้เรา TEST ฝีมือว่าเรามีฝีมือและโครงร่างของเราประมาณเท่าใหร่ โดยที่อาจาร์ยผู้สอนจะให้เราได้ลองวาดภาพรูปทรง สามเหลี่ยม,สี่เหลี่ยม,ทรงกระบอกหรือทรงกลม(จากรูปทรงจริง)จากนั้นหากเวลามันยังไม่หมดอาจารย์ก็จะให้เราวาดรูปทรงของใส(จากของจริง)เช่น แก้วน้ำ ขวดน้ำหอม เป็นต้น

  ครั้งที่ 2

          ครอสนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราวาด พื้นฐานของเส้นและการไล่น้ำหนักของดินสอ

  ครั้งที่ 3

          หลังจากครั้งที่2 อาจารย์ผู้สอนจะให้เราทิ้งกระดาษไว้บางส่วนจากกระดาษที่วาดครั้งที่แล้ว ซึ่งครอสนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราลองขึ้นโครงร่ารูปทรง ตัวอย่างเช่น วงกลม สี่เหลี่ยม ทรงกระบอก ทรงกรวย เป็นต้น

   ครั้งที่ 4
           ครั้งนี้อาจารย์ผูสอนจะให้เราวาด สิ่งของที่มีลักษณะแข็งและมีความทึบในตัว เช่น แจกัน กระถางต้นไม้  คลิปหนีบกระดาษ เป็นต้น

     ครั้งที่ 5

         อาจารย์ จะให้วาด กระถางต้นไม้ ซึ่งมันคือวัตถุซึ่งเป็นของแข็งและมีความทึบแสงโดยให้เราขึ้นโครงร่างโดยให้เราใช้เส้น เป็นการขึ้นโครงร่างพื้นฐานของ DRAWING และอีกทั้งยังให้ใช้ด้ามดินสอในการวันส่วนต่างๆแทนไม้บรรทัดอีกด้วย

     ครั้งที่ 6

        หากอาจารย์ผู้สอนยังไม้พอใจในการขึ้นโครงร่างของสิ่งของ อาจารย์จะให้เราขึ้นโครงร่างสิ่งของต่างๆในครอสนี้(ทำให้เรามีโครงร่างมากขึ้น) อาทิเช่น

     ครั้งที่ 7

       ครั้งนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราวาดสิ่งของทึบที่มีเงาสะท้อนมากขึ้น อาทิเช่นแก้วกาแฟ 

     ครั้งที่ 8 

        ครั้งนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราวาด ถ้วยสแตนเลสซึ่งถวยสแตนเลสนั้นจะมีเงาสะท้อนเยอะมากและอาจาย์ยังสอนเทคนิคใช้มุมดินสอเล็กในการเก็บรายละเอียดส่วนที่แสงตกกระทบ และให้ใช้ยางลบซัพเพื่อให้บางส่วนที่น้ำหนักมากๆมันเบาบางลง

     ครั้งที่ 9

        ครั้งนี้ให้เราวาดเครื่องปั้นดินเผาสองชิ้นและถ้วยแก้ว2ชิ้น โดยทั้ง3ชิ้นวางมันไว้ใกล้เคียงกันและสังเกตแสงเงาของวัตถุที่มีสีขาวอยู่แล้ว...

    ครั้งที่ 10 

       ครั้งนี้อาจารย์จะให้เราขยำกระดาษ และลองวาดดูโดยอธิบายรายละเอียดแสงและเงามาเรื่อยๆเเละยังสอนเทคนิคหากว่าเราจะเอา DRAWING นี้ไปสอบในมหาวิทยาลัย เราควรนำไป(แสงไฟLED)ไปทำแสงไฟลวงเองให้แสงด้านนึงเป็นแสงตกกระทบจะทำให้เราได้เห็นแสงและเงาง่ายขึ้นอีกด้วย....

พื้นฐาน DRAWING

1สิ่งที่ต้องเตรียม

 1.1ดินสอ  เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดเส้นมีหลายเกรดความเข้มโดยมีค่าอ่อนสุดที่ "H"

                  และค่าเข้มสุดที่   "EE"

                 -ดินสอที่ใช้นอยมในการ DRAWING มีดังนี้

                   2B,4B เหมาะสำหรับการร่างภาพเขียนลายเส้น หรือ ต้องการสเก็ตแบบคร่าวๆ

                   6B,EE นิยมในการ DRAWING ในแบบจริงๆจังๆ

1.2ยางลบ  เราควรซื้อมาใช้ในงาน 2 ก้อน 

                  ก้อนที่ 1         จะใช้ในการลบแบบทั่วไป

                  ส่วนก้อนที่ 2  เอาไว้ใช้ตัดเพื่อลบส่วนที่ละเอียดๆ

1.3มีดคัตเตอร์  ใช้เพื่อการเหลาดินสอ

1.4กระดาษ  หากใช้ในงานสเก็ตควรใช้กระดาษที่มีความหนาระดับ 80 แกรม

1.5 ตัวหนีบกระดาษ ควรใช้ตามความเหมาะสม ไม่เล็กไป-ไม่ใหญ่ไป

1.6 กระดาน  ขนาดของกระดานก็เท่ากับขนาดกระดาษ

2.ลายเส้น

    คือ  ลวดลายที่เขียนลงไปในภาพ  เพื่อให้เกิดอารมณ์ และความรู้สึกต่างๆ  ดังนี้

2.1เส้นเฉียง  หรือเส้น 45 องศา จะเป็นการเขียนลายเส้นแทยงไปในทิศทางเดียวกัน จะทแยงซ้าย ก็แล้ว                      แต่ว่าคนถนัดมือข้างใหน น้ำหนักของเส้นก็จะมีความนุ่มนวลมีระเบียบ เหมาะกับการเขียน                        น้ำหนักผ้า กระจก และอื่นๆ
2.2 เส้นขด   เป็นลายเส้นที่มีความสนุกสนาน หมุนานขตไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการยกมือออกจากกระดาษ
                    เส้นนี้เหมาะกับการฝึกบริหารข้อมือให้เกิดความเคลื่อนใหวตลอดเวลา

                                                    

2.3 เส้นตาข่าย เส้นนี้มีลักษณะทับซ้อนแบบเส้นตาข่ายให้ความรู้สึกขัดแย้ง แข็งกระด้าง เหมาะให้เกิด                         ลวดลายหรือแบบสร้างสรรค์ เช่นลวดลายผ้า

2.4 เส้นโค้ง เป็นการนำเส้นโค้งในทิศทางต่างๆ มาสานไปมาลักษณะคล้ายเส้นใคว้ เส้นโค้งจะมีความ                         กลมมน เหมาะสำหรับวัตถุที่มีความกลมมน

2.5 เส้นดี่ง   จะเป็นการใช้เส้นแนวดิ่ง หรือแนวนอน การเขียนลายก็จะเขียนไปตามทิศทางรูปทรง

2.6 เส้นระบาย จะเป็นเส้นที่มีแนวเดียวกับเส้นแนวเฉียงแต่มีความหยาบกว่า ใช้วิธีการจับดินสอแบบคว่ำ                     มือ เพื่อระบายได้กว้างและฉับไว

2.7 เส้นจุด   เป็นการใช้ดินสอ จุด หรือจิ้มลงไปในชิ้นงานเพื่อให้เกิดลวดลายหรือลักษณะของผิวที่                             ต้องการให้มีความหยาบกระด้าง

                                               

แสง-เงา

                    เมื่อเราวาดรูปเป็นเราต้องรู้จักแสงและเงาเพราะแสงและเงาทำให้เรามีตื้นมีนูนซึ่งมันจะทำให้ภาพของเราดูมีมิติและดูดีขึ้นอีกด้วย

น้ำหนักแสงและเงาโดยส่วนมากที่ใช้สำหรับการสอบคือ  เงาอยู่ด้านซ้ายของรูปทรงและอยู่ด้านขวา หรือเงาอยู่ด้านขวาของรูปทรงและสงอยู่ด้านซ้ายของรูปทรง  

รูปทรง

                  โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ฝึกทักษะทางศิลปะมาใหม่ๆย่อมควรที่จะฝึกการวาดรูปทรงเพราะมันเป็นทักษะพื้นฐานทางศิลปะที่จะสามารถนำมันไปต่อยอดต่อได้

   1.ทรง สี่เหลี่ยม

  2 ทรง กรวย

  3 ทรง กระบอก

  4 ทรง กลม

การเรียนศิลปะ (เรียนสอนพิเศษ)

   ครอสที่ 1

      เรียนครั้งแรกๆจะเป็นการจะให้เรา TEST ฝีมือว่าเรามีฝีมือและโครงร่างของเราประมาณเท่าใหร่ โดยที่อาจาร์ยผู้สอนจะให้เราได้ลองวาดภาพรูปทรง สามเหลี่ยม,สี่เหลี่ยม,ทรงกระบอกหรือทรงกลม(จากรูปทรงจริง)จากนั้นหากเวลามันยังไม่หมดอาจารย์ก็จะให้เราวาดรูปทรงของใส(จากของจริง)เช่น แก้วน้ำ ขวดน้ำหอม เป็นต้น

  ครอสที่ 2

          ครอสนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราวาด พื้นฐานของเส้นและการไล่น้ำหนักของดินสอ

  ครอสที่ 3

          หลังจากครอสที่2 อาจารย์ผู้สอนจะให้เราทิ้งกระดาษไว้บางส่วนจากกระดาษที่วาดครั้งที่แล้ว ซึ่งครอสนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราลองขึ้นโครงร่ารูปทรง ตัวอย่างเช่น วงกลม สี่เหลี่ยม ทรงกระบอก ทรงกรวย เป็นต้น

   ครอสที่ 4
           ครอสนี้อาจารย์ผูสอนจะให้เราวาด สิ่งของที่มีลักษณะแข็งและมีความทึบในตัว เช่น แจกัน กระถางต้นไม้  คลิปหนีบกระดาษ เป็นต้น

     ครอสที่ 5

         อาจารย์ จะให้วาด กระถางต้นไม้ ซึ่งมันคือวัตถุซึ่งเป็นของแข็งและมีความทึบแสงโดยให้เราขึ้นโครงร่างโดยให้เราใช้เส้น เป็นการขึ้นโครงร่างพื้นฐานของ DRAWING และอีกทั้งยังให้ใช้ด้ามดินสอในการวันส่วนต่างๆแทนไม้บรรทัดอีกด้วย

     ครอสที่ 6

        หากอาจารย์ผู้สอนยังไม้พอใจในการขึ้นโครงร่างของสิ่งของ อาจารย์จะให้เราขึ้นโครงร่างสิ่งของต่างๆในครอสนี้(ทำให้เรามีโครงร่างมากขึ้น) อาทิเช่น

     ครอสที่ 7

       ครอสนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราวาดสิ่งของทึบที่มีเงาสะท้อนมากขึ้น อาทิเช่นแก้วกาแฟ 

     ครอสที่ 8 

        ครอสนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราวาด ถ้วยสแตนเลสซึ่งถวยสแตนเลสนั้นจะมีเงาสะท้อนเยอะมากและอาจาย์ยังสอนเทคนิคใช้มุมดินสอเล็กในการเก็บรายละเอียดส่วนที่แสงตกกระทบ และให้ใช้ยางลบซัพเพื่อให้บางส่วนที่น้ำหนักมากๆมันเบาบางลง

     ครอสที่ 9

        ครอสนี้ให้เราวาเครื่องปั้นดินเผาสองชิ้นและถ้วยแก้ว2ชิ้น โดยทั้ง3ชิ้นวางมันไว้ใกล้เคียงกันและสังเกตแสงเงาของวัตถุที่มีสีขาวอยู่แล้ว...

     ครอสที่ 10 

       ครอสนี้อาจารย์จะให้เราขยำกระดาษ และลองวาดดูโดยอธิบายรายละเอียดแสงและเงามาเรื่อยๆเเละยังสอนเทคนิคหากว่าเราจะเอา DRAWING นี้ไปสอบในมหาวิทยาลัย เราควรนำไป(แสงไฟLED)ไปทำแสงไฟลวงเองให้แสงด้านนึงเป็นแสงตกกระทบจะทำให้เราได้เห็นแสงและเงาง่ายขึ้นอีกด้วย....

พื้นฐาน DRAWING

1สิ่งที่ต้องเตรียม

 1.1ดินสอ  เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดเส้นมีหลายเกรดความเข้มโดยมีค่าอ่อนสุดที่ "H"

                  และค่าเข้มสุดที่   "EE"

                 -ดินสอที่ใช้นอยมในการ DRAWING มีดังนี้

                   2B,4B เหมาะสำหรับการร่างภาพเขียนลายเส้น หรือ ต้องการสเก็ตแบบคร่าวๆ

                   6B,EE นิยมในการ DRAWING ในแบบจริงๆจังๆ

1.2ยางลบ  เราควรซื้อมาใช้ในงาน 2 ก้อน 

                  ก้อนที่ 1         จะใช้ในการลบแบบทั่วไป

                  ส่วนก้อนที่ 2  เอาไว้ใช้ตัดเพื่อลบส่วนที่ละเอียดๆ

1.3มีดคัตเตอร์  ใช้เพื่อการเหลาดินสอ

1.4กระดาษ  หากใช้ในงานสเก็ตควรใช้กระดาษที่มีความหนาระดับ 80 แกรม

1.5 ตัวหนีบกระดาษ ควรใช้ตามความเหมาะสม ไม่เล็กไป-ไม่ใหญ่ไป

1.6 กระดาน  ขนาดของกระดานก็เท่ากับขนาดกระดาษ

2.ลายเส้น

    คือ  ลวดลายที่เขียนลงไปในภาพ  เพื่อให้เกิดอารมณ์ และความรู้สึกต่างๆ  ดังนี้

2.1เส้นเฉียง  หรือเส้น 45 องศา จะเป็นการเขียนลายเส้นแทยงไปในทิศทางเดียวกัน จะทแยงซ้าย ก็แล้ว                      แต่ว่าคนถนัดมือข้างใหน น้ำหนักของเส้นก็จะมีความนุ่มนวลมีระเบียบ เหมาะกับการเขียน                        น้ำหนักผ้า กระจก และอื่นๆ
2.2 เส้นขด   เป็นลายเส้นที่มีความสนุกสนาน หมุนานขตไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการยกมือออกจากกระดาษ
                    เส้นนี้เหมาะกับการฝึกบริหารข้อมือให้เกิดความเคลื่อนใหวตลอดเวลา

                                                    

2.3 เส้นตาข่าย เส้นนี้มีลักษณะทับซ้อนแบบเส้นตาข่ายให้ความรู้สึกขัดแย้ง แข็งกระด้าง เหมาะให้เกิด                         ลวดลายหรือแบบสร้างสรรค์ เช่นลวดลายผ้า

2.4 เส้นโค้ง เป็นการนำเส้นโค้งในทิศทางต่างๆ มาสานไปมาลักษณะคล้ายเส้นใคว้ เส้นโค้งจะมีความ                         กลมมน เหมาะสำหรับวัตถุที่มีความกลมมน

2.5 เส้นดี่ง   จะเป็นการใช้เส้นแนวดิ่ง หรือแนวนอน การเขียนลายก็จะเขียนไปตามทิศทางรูปทรง

2.6 เส้นระบาย จะเป็นเส้นที่มีแนวเดียวกับเส้นแนวเฉียงแต่มีความหยาบกว่า ใช้วิธีการจับดินสอแบบคว่ำ                     มือ เพื่อระบายได้กว้างและฉับไว

2.7 เส้นจุด   เป็นการใช้ดินสอ จุด หรือจิ้มลงไปในชิ้นงานเพื่อให้เกิดลวดลายหรือลักษณะของผิวที่                             ต้องการให้มีความหยาบกระด้าง

                                               

แสง-เงา

                    เมื่อเราวาดรูปเป็นเราต้องรู้จักแสงและเงาเพราะแสงและเงาทำให้เรามีตื้นมีนูนซึ่งมันจะทำให้ภาพของเราดูมีมิติและดูดีขึ้นอีกด้วย

น้ำหนักแสงและเงาโดยส่วนมากที่ใช้สำหรับการสอบคือ  เงาอยู่ด้านซ้ายของรูปทรงและอยู่ด้านขวา หรือเงาอยู่ด้านขวาของรูปทรงและสงอยู่ด้านซ้ายของรูปทรง  

รูปทรง

                  โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ฝึกทักษะทางศิลปะมาใหม่ๆย่อมควรที่จะฝึกการวาดรูปทรงเพราะมันเป็นทักษะพื้นฐานทางศิลปะที่จะสามารถนำมันไปต่อยอดต่อได้

   1.ทรง สี่เหลี่ยม

  2 ทรง กรวย

  3 ทรง กระบอก

  4 ทรง กลม

การเรียนศิลปะ (เรียนสอนพิเศษ)

   ครอสที่ 1

      เรียนครั้งแรกๆจะเป็นการจะให้เรา TEST ฝีมือว่าเรามีฝีมือและโครงร่างของเราประมาณเท่าใหร่ โดยที่อาจาร์ยผู้สอนจะให้เราได้ลองวาดภาพรูปทรง สามเหลี่ยม,สี่เหลี่ยม,ทรงกระบอกหรือทรงกลม(จากรูปทรงจริง)จากนั้นหากเวลามันยังไม่หมดอาจารย์ก็จะให้เราวาดรูปทรงของใส(จากของจริง)เช่น แก้วน้ำ ขวดน้ำหอม เป็นต้น

  ครอสที่ 2

          ครอสนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราวาด พื้นฐานของเส้นและการไล่น้ำหนักของดินสอ

  ครอสที่ 3

          หลังจากครอสที่2 อาจารย์ผู้สอนจะให้เราทิ้งกระดาษไว้บางส่วนจากกระดาษที่วาดครั้งที่แล้ว ซึ่งครอสนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราลองขึ้นโครงร่ารูปทรง ตัวอย่างเช่น วงกลม สี่เหลี่ยม ทรงกระบอก ทรงกรวย เป็นต้น

   ครอสที่ 4
           ครอสนี้อาจารย์ผูสอนจะให้เราวาด สิ่งของที่มีลักษณะแข็งและมีความทึบในตัว เช่น แจกัน กระถางต้นไม้  คลิปหนีบกระดาษ เป็นต้น
 

     ครอสที่ 5

         อาจารย์ จะให้วาด กระถางต้นไม้ ซึ่งมันคือวัตถุซึ่งเป็นของแข็งและมีความทึบแสงโดยให้เราขึ้นโครงร่างโดยให้เราใช้เส้น เป็นการขึ้นโครงร่างพื้นฐานของ DRAWING และอีกทั้งยังให้ใช้ด้ามดินสอในการวันส่วนต่างๆแทนไม้บรรทัดอีกด้วย

     ครอสที่ 6

        หากอาจารย์ผู้สอนยังไม้พอใจในการขึ้นโครงร่างของสิ่งของ อาจารย์จะให้เราขึ้นโครงร่างสิ่งของต่างๆในครอสนี้(ทำให้เรามีโครงร่างมากขึ้น) อาทิเช่น

     ครอสที่ 7

       ครอสนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราวาดสิ่งของทึบที่มีเงาสะท้อนมากขึ้น อาทิเช่นแก้วกาแฟ 

     ครอสที่ 8 

        ครอสนี้อาจารย์ผู้สอนจะให้เราวาด ถ้วยสแตนเลสซึ่งถวยสแตนเลสนั้นจะมีเงาสะท้อนเยอะมากและอาจาย์ยังสอนเทคนิคใช้มุมดินสอเล็กในการเก็บรายละเอียดส่วนที่แสงตกกระทบ และให้ใช้ยางลบซัพเพื่อให้บางส่วนที่น้ำหนักมากๆมันเบาบางลง

     ครอสที่ 9

        ครอสนี้ให้เราวาเครื่องปั้นดินเผาสองชิ้นและถ้วยแก้ว2ชิ้น โดยทั้ง3ชิ้นวางมันไว้ใกล้เคียงกันและสังเกตแสงเงาของวัตถุที่มีสีขาวอยู่แล้ว...

     ครอสที่ 10 

       ครอสนี้อาจารย์จะให้เราขยำกระดาษ และลองวาดดูโดยอธิบายรายละเอียดแสงและเงามาเรื่อยๆเเละยังสอนเทคนิคหากว่าเราจะเอา DRAWING นี้ไปสอบในมหาวิทยาลัย เราควรนำไป(แสงไฟLED)ไปทำแสงไฟลวงเองให้แสงด้านนึงเป็นแสงตกกระทบจะทำให้เราได้เห็นแสงและเงาง่ายขึ้นอีกด้วย....